RSV หรือ Respiratory syncytial virus เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อที่มักมีอาการไม่รุนแรงและคล้ายหวัดแต่อาจก่อโรครุนแรงในผู้ป่วยบางกลุ่มได้เช่นกัน ซึ่งอาจรวมถึงทารกอายุน้อยกว่า 12 เดือน ทารกที่คลอดก่อนกำหนด ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคร่วมเช่นโรคหัวใจ โรคปอด และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง RSV อาจก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดลมและปอดอักเสบซึ่งตัวเชื้อยังสามารถแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว
อาการแสดง
อาการมักทยอยเกิดเป็นขั้นในระยะเวลา 4-6 วันหลังจากติดเชื้อ โดยอาการรวมถึง:
ไอ
น้ำมูกไหล
จาม
มีไข้
หายใจมีเสียงหวีด
ปวดหัว
เจ็บคอ
ในทารกอาจมีอาการดังนี้:
หงุดหงิดและงอแง
ไม่สนใจกิจกรรมต่างๆ
มีปัญหาการหายใจ
ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขึ้นด้วยภาวะปอดอักเสบหรือหลอดลมอักเสบอาจมีอาการดังนี้
ไออย่างรุนแรง
หายใจมีเสียงหวีด
ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเนื่องจากการอ็อกซิเจน
หายใจถี่และลำบาก
อาการรุนแรงสำหรับทารกอาจรวมถึง
หายใจเสียงดัง
หายใจสั้น ตื้นๆและเร็ว
มีจังหวะเว้นการระหว่างการหายใจแต่ละครั้ง
ริมฝีปาก ปากและเล็บเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
การรักษา
ไม่มีการรักษาอย่างเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันโดยการรักษาเปนการประคับประคองอาการจนหายดี แต่หากมีอาการที่แย่ลงอาจจำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
หากเด็กมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส จังหวะการหายใจเปลี่ยนไปและมีอาการที่หนักขึ้น ควรพบกุมารแพทย์เพื่อรับการรักษา เด็กทารกที่มีการงอแงมากขึ้น มีภาวะขาดน้ำ (สังเกตุจากการปัสสาวะในผ้าอ้อมน้อยลง ผิวแห้ง ริมฝีปากและลิ้นแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตาหายใจถี่และไอ)ควรนำมาพบกุมารแพทย์เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการเพื่อความปลอดภัยของทารก
หากเด็กมีปัญหาการหายใจติดขัด หายใจเสียงดัง สั้น ตื้นและถี่ สีริมฝีปากและเล็บเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินและเทาควรติดต่อห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาโดยด่วน
RSV หรือ Respiratory syncytial virus เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อที่มักมีอาการไม่รุนแรงและคล้ายหวัดแต่อาจก่อโรครุนแรงในผู้ป่วยบางกลุ่มได้เช่นกัน ซึ่งอาจรวมถึงทารกอายุน้อยกว่า 12 เดือน ทารกที่คลอดก่อนกำหนด ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคร่วมเช่นโรคหัวใจ โรคปอด และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง RSV อาจก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดลมและปอดอักเสบซึ่งตัวเชื้อยังสามารถแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว
อาการแสดง
อาการมักทยอยเกิดเป็นขั้นในระยะเวลา 4-6 วันหลังจากติดเชื้อ โดยอาการรวมถึง:
ไอ
น้ำมูกไหล
จาม
มีไข้
หายใจมีเสียงหวีด
ปวดหัว
เจ็บคอ
ในทารกอาจมีอาการดังนี้:
หงุดหงิดและงอแง
ไม่สนใจกิจกรรมต่างๆ
มีปัญหาการหายใจ
ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขึ้นด้วยภาวะปอดอักเสบหรือหลอดลมอักเสบอาจมีอาการดังนี้
ไออย่างรุนแรง
หายใจมีเสียงหวีด
ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเนื่องจากการอ็อกซิเจน
หายใจถี่และลำบาก
อาการรุนแรงสำหรับทารกอาจรวมถึง
หายใจเสียงดัง
หายใจสั้น ตื้นๆและเร็ว
มีจังหวะเว้นการระหว่างการหายใจแต่ละครั้ง
ริมฝีปาก ปากและเล็บเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
การรักษา
ไม่มีการรักษาอย่างเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันโดยการรักษาเปนการประคับประคองอาการจนหายดี แต่หากมีอาการที่แย่ลงอาจจำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
หากเด็กมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส จังหวะการหายใจเปลี่ยนไปและมีอาการที่หนักขึ้น ควรพบกุมารแพทย์เพื่อรับการรักษา เด็กทารกที่มีการงอแงมากขึ้น มีภาวะขาดน้ำ (สังเกตุจากการปัสสาวะในผ้าอ้อมน้อยลง ผิวแห้ง ริมฝีปากและลิ้นแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตาหายใจถี่และไอ)ควรนำมาพบกุมารแพทย์เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการเพื่อความปลอดภัยของทารก
หากเด็กมีปัญหาการหายใจติดขัด หายใจเสียงดัง สั้น ตื้นและถี่ สีริมฝีปากและเล็บเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินและเทาควรติดต่อห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาโดยด่วน
Make an appointment, call an ambulance. Available for service 24 hours a day.
Available for service 24 hours a day.