ภูมิแพ้ไรฝุ่น

ภูมิแพ้ไรฝุ่นคืออะไร

ภูมิแพ้ไรฝุ่นบ้านทางทางเดินหายใจเกิดจากการที่แพ้ไรฝุ่นบ้านพบได้ภายในบ้านซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต ไรฝุ่นบ้านสามารถก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจสองอย่างหลักๆคือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ โดยทั้งสองโรคดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมากหากไม่รักษาและควบคุมอาการ ในคนไทยพบว่ามีการแพ้ไรฝุ่นบ้านถึง 70% และสามารถก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพอย่างมาก ผู้ป่วยที่มีอาการหรือเป็นโรคดังกล่าวควรได้รับการคัดกรองว่าเป็นภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดใดหรือไม่โดยเฉพาะไรฝุ่นบ้าน โดยจำเป็นต้องนำผลให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยควบคู่กับการประเมินสุขภาพผู้ป่วยอีกครั้ง

ไรฝุ่นบ้านสองสายพันธุ์หลักที่พบในไทยและก่อโรคคือ Dermatophagoides pteronyssinus และ Dermatophagoides farinae และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับที่คนอยู่ สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดจำนวนของไรฝุ่นในบ้านได้แต่อาจไม่สามารถกำจัดไรฝุ่นได้ทั้งหมด ไรฝุ่นจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วในที่นอน ฟูก ผ้าห่มที่อุน พรม ผ้าม่านและผิวสัมผัสเฟอร์นิเจอร์และเสื้อที่มีขนเยอะๆ แนวทางการรักษาในปัจจุบันแนะนำให้ควบคุมอาการของโรคและหากเป็นไปได้ให้พิจารณาทำภูมิคุ้มกันบำบัด (Allergen Immunotherapy) ในผู้ป่วยที่เหมาะสมเพื่อสอนให้ภูมิคุ้มกันไม่แพ้ต่อไรฝุ่นและมีโอกาสหายขาด

อาการแสดง

ไรฝุ่นบ้านสามารถก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่างคือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ตามลำดับ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีความเชื่อมโยงในการก่อให้เกิดโรคหอบหืดจากภูมิแพ้หากไม่ได้รับการรักษาโดยทั้งสองโรคดังกล่าวเป็นโรคทางเดินหายใจที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  • น้ำมูกไหลและจมูกตัน

  • คัน

  • จาม

โรคหอบหืดจากภูมิแพ้

  • หายใจลำบาก

  • หายใจมีเสียงหวีด

  • ไอ

การรักษา

การรักษาโดยทั่วไปจะรักษาตามอาการสำหรับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และการควบคุมอาการหอบหืด อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรงโดยมีอาการกลับมาเป็นซ้ำบ่อยอาจพิจารณาใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อรักษาที่ต้นเหตุการเกิดภูมิแพ้ไรฝุ่นบ้านซึ่งอาจสามารถลดหรือหยุดการใช้ยาควบคุมอาการได้ในที่สุด

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  • ยาแก้แพ้ Antihistamine ชนิดรับประทาน และหรือพ่นจมูก

  • ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์

  • ยาสเตียรอยด์รับประทาน

  • การผ่าตัดตามความเหมาะสมจากการประเมินของแพทย์ หู คอ จมูก

โรคหอบหืดจากภูมิแพ้

  • ยาพ่นสเตียรอยด์และยาขยายหลอดลม

  • ยาสเตียรอยด์รับประทาน

  • ยา Biologic สำหรับโรคหอบหืดรุนแรง

  • ยาอื่นๆ เช่น Leukotriene antagonist และ PDE4-inhibitor 

ยาภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับสารก่อภูมิแพ้ 

  • เป็นการนำสารก่อภูมิแพ้ที่มีในตัวไรฝุ่นที่ได้มาตรฐานมา

  • ยาภูมิคุ้มกันบำบัดอมใต้ลิ้นสำหรับไรฝุ่นบ้าน (Sublingual immunotherapy tablet; SLIT) อมใต้ลิ้นวันละ 1 ครั้ง เป็นยาที่แตกตัวได้เร็ว โดยมีการศึกษาว่าสามารถลดอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้ภายใน 8-12 สัปดาห์และลดการเกิดหอบหืดกำเริบได้ โดยใช้ระยะเวลาการรักษาทั้งหมด 3 ปี 

  • ยาภูมิคุ้มกันบำบัดชนิดฉีดใต้ผิวหนัง โดยจำเป็นต้องใช้ทุกสัปดาห์หรือตามแพทย์ปรับตามความเหมาะสมช่วง 6 เดือนแรกให้ร่างกายสามารถลดการแพ้ จากนั้นจึงฉีดใต้ผิวหนังเดือนละ 1 ครั้งเป็นระยะเวลา 3-5 ปี

  • เป้าหมายของการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดคือการรักษาภูมิแพ้ไรฝุ่นให้หายขาด ลดการใช้ยารักษาอาการในระยะยาวและลดอาการของโรคได้

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอย่างต่อเนื่องสำหรับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือกำลังใช้ยารักษาโรคหอบหืด ปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูกหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้เพื่อรับการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว การรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้แต่เนิ่นๆสามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ได้ในอนาคต

ศูนย์หู คอ จมูก

ศูนย์หู คอ จมูก

ภูมิแพ้ไรฝุ่น

ภูมิแพ้ไรฝุ่นคืออะไร

ภูมิแพ้ไรฝุ่นบ้านทางทางเดินหายใจเกิดจากการที่แพ้ไรฝุ่นบ้านพบได้ภายในบ้านซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต ไรฝุ่นบ้านสามารถก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจสองอย่างหลักๆคือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ โดยทั้งสองโรคดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมากหากไม่รักษาและควบคุมอาการ ในคนไทยพบว่ามีการแพ้ไรฝุ่นบ้านถึง 70% และสามารถก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพอย่างมาก ผู้ป่วยที่มีอาการหรือเป็นโรคดังกล่าวควรได้รับการคัดกรองว่าเป็นภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดใดหรือไม่โดยเฉพาะไรฝุ่นบ้าน โดยจำเป็นต้องนำผลให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยควบคู่กับการประเมินสุขภาพผู้ป่วยอีกครั้ง

ไรฝุ่นบ้านสองสายพันธุ์หลักที่พบในไทยและก่อโรคคือ Dermatophagoides pteronyssinus และ Dermatophagoides farinae และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับที่คนอยู่ สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดจำนวนของไรฝุ่นในบ้านได้แต่อาจไม่สามารถกำจัดไรฝุ่นได้ทั้งหมด ไรฝุ่นจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วในที่นอน ฟูก ผ้าห่มที่อุน พรม ผ้าม่านและผิวสัมผัสเฟอร์นิเจอร์และเสื้อที่มีขนเยอะๆ แนวทางการรักษาในปัจจุบันแนะนำให้ควบคุมอาการของโรคและหากเป็นไปได้ให้พิจารณาทำภูมิคุ้มกันบำบัด (Allergen Immunotherapy) ในผู้ป่วยที่เหมาะสมเพื่อสอนให้ภูมิคุ้มกันไม่แพ้ต่อไรฝุ่นและมีโอกาสหายขาด

อาการแสดง

ไรฝุ่นบ้านสามารถก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่างคือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ตามลำดับ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีความเชื่อมโยงในการก่อให้เกิดโรคหอบหืดจากภูมิแพ้หากไม่ได้รับการรักษาโดยทั้งสองโรคดังกล่าวเป็นโรคทางเดินหายใจที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  • น้ำมูกไหลและจมูกตัน

  • คัน

  • จาม

โรคหอบหืดจากภูมิแพ้

  • หายใจลำบาก

  • หายใจมีเสียงหวีด

  • ไอ

การรักษา

การรักษาโดยทั่วไปจะรักษาตามอาการสำหรับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และการควบคุมอาการหอบหืด อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรงโดยมีอาการกลับมาเป็นซ้ำบ่อยอาจพิจารณาใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อรักษาที่ต้นเหตุการเกิดภูมิแพ้ไรฝุ่นบ้านซึ่งอาจสามารถลดหรือหยุดการใช้ยาควบคุมอาการได้ในที่สุด

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  • ยาแก้แพ้ Antihistamine ชนิดรับประทาน และหรือพ่นจมูก

  • ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์

  • ยาสเตียรอยด์รับประทาน

  • การผ่าตัดตามความเหมาะสมจากการประเมินของแพทย์ หู คอ จมูก

โรคหอบหืดจากภูมิแพ้

  • ยาพ่นสเตียรอยด์และยาขยายหลอดลม

  • ยาสเตียรอยด์รับประทาน

  • ยา Biologic สำหรับโรคหอบหืดรุนแรง

  • ยาอื่นๆ เช่น Leukotriene antagonist และ PDE4-inhibitor 

ยาภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับสารก่อภูมิแพ้ 

  • เป็นการนำสารก่อภูมิแพ้ที่มีในตัวไรฝุ่นที่ได้มาตรฐานมา

  • ยาภูมิคุ้มกันบำบัดอมใต้ลิ้นสำหรับไรฝุ่นบ้าน (Sublingual immunotherapy tablet; SLIT) อมใต้ลิ้นวันละ 1 ครั้ง เป็นยาที่แตกตัวได้เร็ว โดยมีการศึกษาว่าสามารถลดอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้ภายใน 8-12 สัปดาห์และลดการเกิดหอบหืดกำเริบได้ โดยใช้ระยะเวลาการรักษาทั้งหมด 3 ปี 

  • ยาภูมิคุ้มกันบำบัดชนิดฉีดใต้ผิวหนัง โดยจำเป็นต้องใช้ทุกสัปดาห์หรือตามแพทย์ปรับตามความเหมาะสมช่วง 6 เดือนแรกให้ร่างกายสามารถลดการแพ้ จากนั้นจึงฉีดใต้ผิวหนังเดือนละ 1 ครั้งเป็นระยะเวลา 3-5 ปี

  • เป้าหมายของการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดคือการรักษาภูมิแพ้ไรฝุ่นให้หายขาด ลดการใช้ยารักษาอาการในระยะยาวและลดอาการของโรคได้

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอย่างต่อเนื่องสำหรับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือกำลังใช้ยารักษาโรคหอบหืด ปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูกหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้เพื่อรับการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว การรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้แต่เนิ่นๆสามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคหอบหืดจากภูมิแพ้ได้ในอนาคต

Emergency
+66 2220 3899

Make an appointment, call an ambulance. Available for service 24 hours a day.

Call Us
+66 2220 7999

Available for service 24 hours a day.

Hospital map
How to get there